สำหรับชาวต่างชาติหลายคน ประเทศไทยถือเป็นประเทศในฝันที่อยากจะมาใช้ชีวิตอยู่ และการทำงานหรือเปิดธุรกิจในประเทศไทยก็ถือเป็นหนึ่งทางเลือกที่เป็นที่นิยม และมีความเป็นไปได้มากที่สุด ซึ่งชาวต่างชาติทุกคนที่เข้ามาทำงานในประเทศไทยจำเป็นต้องมีใบอนุญาตทำงาน แม้ว่ากระบวนการการขอใบอนุญาตทำงานค่อนข้างมีความซับซ้อน แต่การมีใบอนุญาตทำงานจะช่วยให้ชาวต่างชาติสามารถใช้สิทธิ และได้รับประโยชน์ในฐานะลูกจ้างในประเทศไทย นอกจากนี้ การทำงานในไทยโดยไม่มีใบอนุญาตทำงานในครอบครองจะมีบทลงโทษตามกฎหมาย
ก่อนที่ชาวต่างชาติจะตัดสินใจย้ายมาทำงานที่ประเทศไทย ควรเรียนรู้ข้อมูลพื้นฐาน คุณสมบัติรวมถึงเอกสารที่จำเป็นต่างๆ ในการขอใบอนุญาตทำงานและวีซ่าทำงาน เพื่อให้มั่นใจได้ว่าชาวต่างชาติจะสามารถอยู่ในประเทศไทยได้อย่างถูกต้องและราบรื่น โดยแนวทางในการขอใบอนุญาตทำงานในประเทศไทยนี้จะช่วยอธิบายกระบวนการและหัวข้อสำคัญที่ควรรับรู้
วีซ่าทำงาน และใบอนุญาตทำงาน ต่างกันอย่างไร?
ในบางประเทศ วีซ่าทำงานและใบอนุญาตทำงานอาจเป็นสิ่งเดียวกัน แต่ไม่ใช่กับประเทศไทย ชาวต่างชาติที่สนใจมาทำงานในไทยอาจเกิดความสับสน และเข้าใจว่าเมื่อได้รับวีซ่าทำงานแล้วจะสามารถเริ่มทำงานในประเทศไทยได้ทันทีโดยไม่ต้องดำเนินการใดๆต่อ แต่นั่นเป็นความเข้าใจที่ไม่ถูกต้อง การจะทำงานในประเทศให้ถูกต้องตามกฎหมายนั้น ชาวต่างชาติทุกคนจะต้องมีทั้งวีซ่าทำงาน และใบอนุญาตทำงานควบคู่กัน และทั้งสองสิ่งนี้ไม่สามารถนำมาใช้แทนกันได้
- บุคคลใดก็ตามที่ไม่ได้มีสัญชาติไทยและมีความประสงค์ที่จะทำงานในประเทศไทยจะต้องยื่นขอวีซ่าทำงานจากประเทศของตน โดยวีซ่าที่สามารถนำมาใช้ขอใบอนุญาตทำงานในประเทศไทยได้มีอยู่หลายประเภทขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละบุคคล เช่น วีซ่าประเภทคนอยู่ชั่วคราว B (Non-immigrant B) และวีซ่าแต่งงานในกรณีที่แต่งงานกับคนไทย เป็นต้น ซึ่งวีซ่าสำหรับทำงานนี้จะถูกออกโดยสถานทูตไทย หรือสถานกงสุลไทยในต่างประเทศ โดยจะมีการประทับตราไว้บนหนังสือเดินทางของชาวต่างชาติ
- ใบอนุญาตทำงานจะสามารถขอได้เมื่อชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาในประเทศไทยแล้วโดยใช้วีซ่าทำงานที่เหมาะสม ซึ่งใบอนุญาตทำงานจะเป็นเอกสารทางราชการที่ออกโดยกระทรวงแรงงาน และจะระบุข้อมูลเกี่ยวกับการทำงานของชาวต่างชาติ เช่น อาชีพ ตำแหน่ง บริษัทผู้ว่าจ้าง เป็นต้น และใบอนุญาตนี้จะทำให้ผู้ที่ไม่ได้มีสัญชาติไทยสามารถปฏิบัติงานหรือดำเนินธุรกิจในประเทศไทยได้อย่างถูกต้อง
ประเภทของวีซ่าทำงาน
วีซ่าประเภทคนอยู่ชั่วคราวที่ชาวต่างชาติสามารถยื่นขอเพื่อใช้ทำงานได้มีอยู่หลายประเภท โดยชาวต่างชาติจะต้องเลือกขอวีซ่าที่เหมาะสมกับเงื่อนไขและคุณสมบัติของตนเองรวมถึงงานที่จะทำในประเทศไทย นอกจากนี้ชาวต่างชาติควรศึกษาพ.ร.บ. การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวที่ระบุรายการกิจกรรมทางธุรกิจที่ไม่สามารถดำเนินโดยชาวต่างชาติได้ ก่อนที่จะเริ่มทำงานหรือดำเนินกิจการใดๆในประเทศไทย
ด้านล่างนี้คือคำอธิบายของแต่ละประเภทวีซ่าคนอยู่ชั่วคราวที่ชาวต่างชาติสามารถยื่นขอได้
วีซ่าคนอยู่ชั่วคราวประเภท B (เพื่อการทำงานและประกอบธุรกิจ)
วีซ่าประเภทนี้เป็นวีซ่าสำหรับทำงานและประกอบธุรกิจทั่วไปที่ชาวต่างชาตินิยมขอกันมากที่สุด โดยชาวต่างชาติจะต้องยื่นขอวีซ่าประเภทนี้ในประเทศของตนเองซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วจะอนุญาตให้ชาวต่างชาติสามารถอยู่ในประเทศไทยได้เป็นเวลา 90 วัน และเมื่อได้รับใบอนุญาตทำงานภายใน 90 วันแล้ว ชาวต่างชาติจะสามารถดำเนินเรื่องขอต่อระยะเวลาวีซ่าเป็น 1 ปีในประทศไทยได้โดยมีบริษัทผู้ว่าจ้างคอยช่วยเหลือ
วีซ่าคนอยู่ชั่วคราวประเภท B-A (สำหรับธุรกิจที่ได้รับอนุมัติ)
โดยทั่วไปแล้ววีซ่าประเภทนี้จะออกให้แก่ชาวต่างชาติที่ลงทุนในธุรกิจในประเทศไทย ซึ่งบริษัทที่เกี่ยวข้องในไทยสามารถช่วยเหลือในการขอวีซ่าให้กับนักลงทุนชาวต่างชาติได้ และวีซ่าจะมีระยะเวลา 1 ปี อย่างไรก็ตาม การออกวีซ่าประเภทนี้ไม่ค่อยแพร่หลายมากนัก และขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่สถานทูต หรือเจ้าหน้าที่กงสุลที่รับผิดชอบ
วีซ่าคนอยู่ชั่วคราวประเภท IB (เพื่อการลงทุนและธุรกิจ)
วีซ่าประเภทนี้คือวีซ่าสำหรับชาวต่างชาติที่จะเข้ามาทำงานหรือร่วมโครงการที่ได้รับการส่งเสริมจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ซึ่งเป็นโครงการที่อนุมัติโดยบีโอไอว่ามีส่วนช่วยสร้างประโยชน์แก่ประเทศไทย
วีซ่าคนอยู่ชั่วคราวประเภท M (สำหรับสื่อมวลชน)
วีซ่าคนอยู่ชั่วคราวประเภท M จะออกให้กับชาวต่างชาติที่จะเดินทางเข้ามายังประเทศไทยเพื่อปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องกับสื่อต่างๆ เช่น สื่อทางโทรทัศน์ ภาพยนตร์ หรือสื่อออนไลน์ เป็นต้น ซึ่งอาจจะต้องมีการขออนุมัติเพิ่มเติมจากหน่วยงานอื่นๆที่เกี่ยวข้องโดยขึ้นอยู่กับประเภทของสื่อและงานที่จะทำ
วีซ่าคนอยู่ชั่วคราวประเภท O (สำหรับครอบครัวผู้ติดตาม)
หากชาวต่างชาติที่ถือวีซ่าทำงานมีความประสงค์ที่จะให้คู่สมรส หรือสมาชิกในครอบครัวติดตามมายังประเทศไทยด้วย ผู้ติดตามดังกล่าวจะต้องยื่นขอวีซ่าคนอยู่ชั่วคราวประเภท O นอกจากนี้ วีซ่าประเภทนี้จะออกให้กับชาวต่างชาติที่เข้ามาปฏิบัติงานอาสาสมัคร ผู้ที่แต่งงานกับชาวไทย และผู้ที่ต้องการใช้ชีวิตหลังเกษียณในประเทศไทย
สมาร์ท วีซ่า (Smart Visa)
สมาร์ท วีซ่า เป็นวีซ่าประเภทใหม่ที่ออกให้กับผู้เชี่ยวชาญชาวต่างชาติที่มีทักษะ และประสบการณ์ตามที่ได้ระบุไว้ รวมถึงนักลงทุน ผู้ประกอบการสตาร์ทอัพ ผู้บริหารระดับสูง และครอบครัวของผู้ถือสมาร์ท วีซ่าด้วย โดยผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้จะต้องทำงานในอุตสาหกรรมเป้าหมาย เช่นเทคโนโลยีชีวภาพ อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ ชีวเคมี และอื่นๆ
ผู้ที่ได้รับสมาร์ท วีซ่าจะสามารถอยู่ในประเทศไทยเป็นระยะเวลา 4 ปี และได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ รวมถึงการยกเว้นใบอนุญาตทำงานด้วย
เมื่อได้รับวีซ่าที่เหมาะสมแล้ว ในขั้นตอนถัดไป ชาวต่างชาติจะต้องดำเนินการขอใบอนุญาตทำงานโดยการช่วยเหลือจากบริษัทผู้ว่าจ้าง ซึ่งชาวต่างชาติจะต้องมีใบอนุญาตทำงานก่อนที่จะเริ่มปฏิบัติงานใดๆ
คุณสมบัติในการขอใบอนุญาตทำงาน
ชาวต่างชาติที่สนใจทำงานในประเทศไทยจะต้องรับทราบว่าไม่ใช่ทุกบริษัทหรือองค์กรที่จะสามารถดำเนินการขอใบอนุญาตทำงานให้กับพนักงานต่างชาติได้ เนื่องจากในการขอใบอนุญาตทำงานนั้น ทั้งบริษัทและชาวต่างชาติจะต้องมีคุณสมบัติตามที่ระบุไว้ในข้อกฎหมาย
คุณสมบัติทั่วไปสำหรับบริษัทมีดังนี้:
- จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลในประเทศไทย
- มีทุนจดทะเบียนขั้นต่ำ 2 ล้านบาทต่อหนึ่งใบอนุญาตทำงาน
- มีพนักงานคนไทย 4 คนต่อหนึ่งใบอนุญาตทำงาน
- หากเป็นบริษัทที่จดทะเบียนในต่างประเทศ ต้องมีทุนจดทะเบียนอย่างน้อย 3 ล้านบาทต่อหนึ่งใบอนุญาตทำงาน
ในกรณีที่เป็นบริษัทภายใต้การส่งเสริมโดยบีโอไอ คุณสมบัติบางประการจะได้รับการยกเว้น ถึงอย่างนั้น บริษัทจะต้องดำเนินการแจ้งอธิบายกับบีโอไอถึงเหตุผลความจำเป็นที่ต้องจ้างพนักงานต่างชาติมาปฏิบัติงาน
บุคคลต่างชาติที่จะดำเนินการขอใบอนุญาตทำงานจำเป็นต้องมีคุณสมบัติตามที่กฎหมายระบุไว้เช่นเดียวกัน ประกอบด้วย:
- มีวีซ่าคนอยู่ชั่วคราวที่เหมาะสม
- ได้รับข้อเสนองานจากบริษัทในประเทศไทย
- มีประวัติการศึกษาและการทำงานที่สอดคล้องกับหน้าที่ที่จะปฏิบัติในประเทศไทย
- มีร่างกายแข็งแรง โดยปราศจากโรคร้ายแรง หรือการติดสารเสพติดใดๆ
เอกสารที่ต้องใช้เพื่อขอใบอนุญาตทำงาน
ในกรณีส่วนใหญ่แล้ว บริษัทผู้ว่าจ้างจะทำหน้าที่ช่วยจัดเตรียม และยื่นเอกสารขอใบอนุญาตทำงานซึ่งจะสามารถทำก่อนหรือหลังที่ชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาในประเทศไทยก็ได้ อย่างไรก็ตาม ชาวต่างชาติจะต้องไปแสดงตัวในวันที่ไปรับใบอนุญาตทำงานจากกระทรวงแรงงาน
ด้านล่างนี้คือรายการเอกสารที่ต้องใช้ทั้งจากบริษัท และบุคคลต่างชาติ
เอกสารจากบริษัท:
- แบบฟอร์มขอใบอนุญาตทำงาน
- ใบจดทะเบียนนิติบุคคล และรายชื่อผู้ถือหุ้น
- ใบทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม และหลักฐานการยื่นภาษีมูลค่าเพิ่ม
- แบบชำระเงินสมทบประกันสังคม
- หลักฐานการยื่นภาษีนิติบุคคล
- สัญญาจ้างงานระหว่างบริษัทและบุคคลต่างชาติ
เอกสารจากพนักงานต่างชาติ:
- หนังสือเดินทางตัวจริง และสำเนาหน้าตราประทับวีซ่าคนอยู่ชั่วคราว, หน้าตราประทับขาเข้าประเทศไทยล่าสุด และหน้าแรกที่มีรูปถ่ายและข้อมูลทางชีวภาพ
- สำเนาหนังสือรับรองการทำงาน
- สำเนาใบรับรองการศึกษา หรือใบปริญญา
- ใบรับรองแพทย์ที่เพิ่งออกไม่นานนี้
- รูปถ่ายขนาด 3×4 เซนติเมตร ที่ถ่ายไม่เกินหกเดือน
- หนังสือรับรอง และใบอนุญาตอื่นๆที่เกี่ยวข้อง
สำเนาของเอกสารตัวจริงทุกฉบับจะต้องมีการเซ็นรับรอง นอกจากนี้เอกสารบางรายการอาจต้องมีการแปลเป็นภาษาไทย โดยเฉพาะเอกสารที่มีต้นฉบับเป็นภาษาอื่นๆที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษ ดังนั้นทั้งบริษัทและพนักงานต่างชาติจึงควรเตรียมเอกสารไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ
ขั้นตอนการขอใบอนุญาตทำงาน
เมื่อเตรียมเอกสารที่จำเป็นทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว พนักงานต่างชาติหรือบริษัทผู้ว่าจ้างจะต้องยื่นเอกสารขอใบอนุญาตทำงานที่กระทรวงแรงงาน ทั้งนี้ หากเป็นบริษัทที่ได้รับการส่งเริมโดยบีโอไอ จะต้องมีการแจ้งขอไปที่บีโอไอก่อน จากนั้นจะมีการออกใบอนุญาตทำงานผ่านทางศูนย์บริการ One Stop Service
ขั้นตอนที่ 1: ขอวีซ่าคนอยู่ชั่วคราวที่เหมาะสม
ตามที่ได้กล่าวมานั้น การจะขอใบอนุญาตทำงานได้ ชาวต่างชาติจะต้องมีวีซ่าทำงาน หรือวีซ่าคนอยู่ชั่วคราวเพื่อปฏิบัติงานในไทย ซึ่งวีซ่านี้สามารถดำเนินการขอได้ที่สถานทูต หรือกงสุลประเทศไทยในต่างประเทศ ในกรณีที่ชาวต่างชาติอยู่ในประเทศไทยโดยถือวีซ่านักท่องเที่ยว จะต้องทำการเปลี่ยนแปลงวีซ่าไปเป็นวีซ่าคนอยู่ชั่วคราว โดยวีซ่าประเภทนี้จะมีอายุ 90 วัน และสามารถต่ออายุได้หลังได้รับใบอนุญาตทำงานแล้ว
เอกสารที่ต้องใช้ในการขอวีซ่าอาจแตกต่างกัน โดยขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของสถานทูตหรือสถานกงสุลในแต่ละประเทศ ทั้งนี้ เอกสารทั่วไปที่ต้องใช้ประกอบด้วย:
- แบบฟอร์มการขอวีซ่าคนอยู่ชั่วคราว
- เอกสารเสนองานจากนิติบุคคลในไทย
- หนังสือเดินทางตัวจริงที่มีอายุเหลืออย่างน้อย 6 เดือน
- สัญญาจ้างระหว่างบริษัทในไทยและบุคคลต่างชาติ
- หนังสือเชิญจากบริษัทผู้ว่าจ้างที่ระบุรายละเอียดการทำงาน
- เอกสารอื่นๆตามแต่สถานทูตหรือสถานกงสุลจะแจ้งขอ
ขั้นตอนที่ 2: การขอใบอนุญาตทำงาน
การขอใบอนุญาตทำงานควรจะแล้วเสร็จภายใน 90 วัน ก่อนที่วีซ่าคนอยู่ชั่วคราวของชาวต่างชาติจะหมดอายุ โดยหนังสืออนุญาตทำงานจะออกให้กับชาวต่างชาติโดยกระทรวงแรงงาน ซึ่งทั้งบริษัทผู้ว่าจ้าง และบุคคลต่างชาติจะต้องมีคุณสมบัติตามที่กระทรวงแรงงานระบุไว้
สำหรับการยื่นขอใบอนุญาตทำงานที่มีคุณสมบัติตรงกับเงื่อนไขบางประการ หรือเป็นการยื่นภายใต้บริษัทที่ได้รับการสนับสนุนจากบีโอไอ ผู้เกี่ยวข้องสามารถยื่นเอกสารเพื่อดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในหนึ่งวันได้ที่ศูนย์บริการ One Stop Service
ขั้นตอนที่ 3: การอนุมัติใบอนุญาตทำงาน
เมื่อทำการยื่นเอกสารทั้งหมดแล้ว ผู้ขอใบอนุญาตจะได้รับเอกสารยืนยันที่ระบุวันที่ให้มารับใบอนุญาตทำงาน และในวันที่มารับ ชาวต่างชาติที่ขอใบอนุญาตทำงานจะต้องเดินทางมาด้วยตนเองพร้อมกับหนังสือเดินทางตัวจริง เพื่อนำมาประทับตราโดยเจ้าหน้าที่กระทรวงแรงงาน
กระบวนการในการอนุมัติจะใช้เวลา 7-10 วันทำการหากเป็นการยื่นเอกสารที่กรุงเทพฯ แต่ในกรณีที่ดำเนินการในจังหวัดภูเก็ตอาจใช้เวลาประมาณ 2 เดือน
ใบอนุญาตทำงานจะมีอายุไม่เกิน 1 ปี และจะต้องมีการต่ออายุหากชาวต่างชาติยังมีความประสงค์จะทำงานในประเทศไทยต่อ ทั้งนี้เงื่อนไขอาจแตกต่างไปหากเป็นบริษัทที่ได้รับการสนับสนุนโดยบีโอไอ
หลังได้รับใบอนุญาตทำงานแล้ว พนักงานต่างชาติจะต้องดำเนินการขอต่อวีซ่าคนอยู่ชั่วคราวจาก 90 วัน เป็นหนึ่งปี
ข้อจำกัด และความรับผิดชอบของการมีใบอนุญาตทำงาน
ชาวต่างชาติที่ถือใบอนุญาตทำงานจะสามารถทำงานภายใต้บริษัทและหน้าที่ที่ได้ระบุไว้ในใบอนุญาตเท่านั้น การทำงานใดๆที่นอกเหนือจากที่ระบุไว้จะถือเป็นความผิดและมีบทลงโทษ เช่นการปรับและจำคุก นอกจากนี้ ในการรักษาใบอนุญาตให้คงอยู่จนถึงวันหมดอายุนั้น ชาวต่างชาติมีหน้าที่ที่ต้องทำดังต่อไปนี้
การยื่นภาษีเงินได้ส่วนบุคคล
พนักงานต่างชาติจะต้องขอเลขประจำตัวผู้เสียภาษีจากกรมสรรพากร ซึ่งมีกระบวนการที่ค่อนข้างง่ายและใช้เวลาเพียงวันเดียวหากเอกสารทั้งหมดครบถ้วนและถูกต้อง เมื่อมีเลขประจำตัวผู้เสียภาษีแล้ว พนักงานต่างชาติจะสามารถยื่นรายการภาษีเงินได้ประจำปีของตนได้
การรายงานตัว 90 วัน
ชาวต่างชาติทุกคนที่มาอยู่ประเทศไทยเป็นเวลานานมีหน้าที่ในการรายงานตน และที่อยู่ ณ ปัจจุบันในประเทศไทยกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองทุกๆ 90 วัน ซึ่งสามารถทำได้โดยการไปรายงานตัวด้วยตนเอง ผ่านทางไปรษณีย์ หรือมอบอำนาจให้เอเย่นต์ดำเนินการแทน
การขออนุญาตกลับเข้าประเทศไทย
หากวีซ่าที่ชาวต่างชาติถืออยู่เป็นแบบเดินทางเข้าได้ครั้งเดียว (single-entry visa) และต้องการเดินทางออกนอกประเทศไทย ชาวต่างชาติจะต้องดำเนินการยื่นคำร้องขอกลับเข้าประเทศเสียก่อน เนื่องจากวีซ่านี้เกี่ยวเนื่องกับใบอนุญาตทำงานโดยตรง ดังนั้นหากชาวต่างชาติออกนอกประเทศและทำให้วีซ่าถูกยกเลิก จะส่งผลต่อใบอนุญาตทำงานที่ถืออยู่ด้วย ซึ่งการขออนุญาติกลับเข้าประเทศไม่ว่าจะครั้งเดียวหรือมากกว่าหนึ่งครั้ง สามารถยื่นคำร้องได้ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง หรือจุดบริการสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองที่สนามบิน
การยกเลิก เปลี่ยนแปลง หรือต่ออายุใบอนุญาตทำงาน
การยกเลิกใบอนุญาตทำงาน
เมื่อสัญญาการจ้างงานจบลง บริษัทผู้ว่าจ้างจะต้องรายงานการเลิกจ้างกับทางกระทรวงแรงงาน เพื่อให้ยกเลิกใบอนุญาตทำงาน และวีซ่าของชาวต่างชาติต่อไป โดยทั่วไปแล้วชาวต่างชาติจะขออยู่ในประเทศไทยต่อได้อีก 7 วันหลังใบอนุญาตทำงานและวีซ่าได้ถูกยกเลิกแล้ว
การเปลี่ยนงาน
หากชาวต่างชาติต้องการเปลี่ยนงานขณะอยู่ในประเทศไทย ชาวต่างชาติจะต้องทำการตกลงกับบริษัทผู้ว่าจ้างเกี่ยวกับวันเลิกจ้าง หรือวันที่จะต้องยกเลิกใบอนุญาตทำงาน ในขณะเดียวกัน บริษัทผู้ว่าจ้างใหม่จะต้องเตรียมเอกสารสำหรับขอใบอนุญาตทำงานใหม่และการขออยู่ต่อในประเทศไทยของชาวต่างชาติ หากการอนุญาตให้อยู่ในประเทศไทยหมดอายุก่อนที่จะมีการยื่นเอกสารให้กับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ชาวต่างชาติจะต้องเดินทางออกนอกประเทศไทยเพื่อขอวีซ่าทำงานและใบอนุญาตทำงานใหม่อีกครั้ง
การต่ออายุใบอนุญาตทำงาน
ใบอนุญาตทำงานจะต้องได้รับการต่ออายุก่อนวันหมดอายุที่ระบุไว้ในใบอนุญาต โดยชาวต่างชาติและบริษัทผู้ว่าจ้างจะต้องดำเนินการต่ออายุวีซ่าของชาวต่างชาติให้เรียบร้อยเสียก่อน ซึ่งเอกสารที่ใช้ในการต่ออายุใบอนุญาตทำงานจะเป็นเอกสารชุดเดียวกันกับที่ใช้ในครั้งแรกหากไม่มีการเปลี่ยนแปลงในการทำงานใดๆ
ค่าธรรมเนียม
ค่าธรรมเนียมสำหรับวีซ่าคนอยู่ชั่วคราวประเภท B (เพื่อการทำงานและประกอบธุรกิจ):
- ค่าธรรมเนียมสำหรับการเข้าประเทศครั้งเดียว (Single-entry) 2,000 บาท มีอายุสามเดือน
- ค่าธรรมเนียมสำหรับการเข้าประเทศมากกว่าหนึ่งครั้ง (Multiple entries) 5,000 บาท มีอายุหนึ่งปี
ค่าธรรมเนียมสำหรับใบอนุญาตทำงาน:
- ค่ายื่นคำร้อง 100 บาท
- ค่าใบอนุญาตทำงาน 750 บาท สำหรับใบอนุญาตที่มีอายุสามเดือน
- ค่าใบอนุญาตทำงาน 1,500 บาท สำหรับใบอนุญาตที่มีอายุสามถึงหกเดือน
- ค่าใบอนุญาตทำงาน 3,500 บาท สำหรับใบอนุญาตที่มีอายุหนึ่งปี
- ค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าแปลและรับรองเอกสาร
การดำเนินเรื่องขอวีซ่าทำงาน และใบอนุญาตทำงานจำเป็นต้องมีการเตรียมพร้อมที่ดี และมีรายละเอียดค่อนข้างมาก เพื่อให้มั่นใจว่าการเริ่มต้นทำงานหรือประกอบธุรกิจในประเทศไทยของคุณเป็นไปได้อย่างราบรื่นที่สุด ผู้เชี่ยวชาญทางด้านกฎหมายจะสามารถช่วยทำให้กระบวนการเหล่านี้ง่ายขึ้นสำหรับคุณ และยังช่วยให้คำปรึกษาที่ดีที่สุดในทุกขั้นตอน โปรดติดต่อเราเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติม